ตัดขนแมว ให้น้องแมวเพราะเป็นสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้ชิด จึงต้องดูแลให้มีสุขภาพที่ดี และอยู่ในสภาพที่สบายตัวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน สุขภาพกาย ไปจนถึงเรื่องของความสะอาด ซึ่งการตัดขนแมวก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่เจ้าของน้องแมวควรให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยให้แมวสบายตัว สะอาด ปราศจากแมลง และง่ายต่อการอาบน้ำ แต่ในขณะเดียวกันก็มีเรื่องต้องคำนึงถึง เพราะการตัดขนแมวอาจทำให้แมวอารมณ์ไม่ดีเพราะขาดความมั่นใจได้เหมือนกัน

ตัดขนแมว จำเป็นหรือไม่

การตัดขนแมวนั้นมีความสำคัญมากกว่าที่คิด นั่นก็เพราะว่า ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ทั้งยังมีอากาศที่ชื้น การที่ไว้ขนน้องแมวยาวจนเกินไปอาจส่งผลต่อการระบายความร้อนใต้ผิวหนัง และอาจทำให้แมวเกิดอาการ Heatstroke ได้

นอกจากในเรื่องของการระบายความร้อน ความสะอาดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรคำนึง ตัดขนแมวให้สั้นในระดับที่พอเหมาะจะช่วยไม่ให้มีสัตว์อย่างแมลงไปรบกวนที่ตัวแมว ง่ายต่อการอาบน้ำ เพราะขนจะแห้งเร็ว และยังลดความสกปรกจากการที่แมวไปคลุกคลีกับสิ่งต่างๆ ภายนอกบ้านจนเปราะเปื้อน หรือการที่ขับถ่ายจนเลอะขนในบริเวณนั้นอีกด้วย

ทำอย่างไรแมวจึงไม่หมดความมั่นใจและซึมเศร้าหลังตัดขน

เจ้าของน้องแมวหลายคนกังวลกับการพาน้องไปตัดขนหรือการตัดขนให้น้องด้วยตนเอง เนื่องจากเคยมีประสบการณ์ ตัดขนแมวแล้วแมวอารมณ์ไม่ดี งอน สูญเสียความมั่นใจ หรือมีอาการคล้ายซึมเศร้า นั่นก็เพราะว่าอาจตัดจนสั้นเกินไป หรือตัดในลักษณะที่ทำให้แมวไม่สบายตัว แมวจึงไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง และแสดงอาการดังกล่าวออกมา

วิธีแก้ไขและการป้องกัน มีดังนี้

  • หากตัดขนเอง ไม่ควรตัดจนให้สั้นจนเกินไป ควรเหลือความยาวไว้ให้ปกคลุมร่างกายและให้ความอบอุ่นกับน้องบ้าง นอกจากนี้ ก่อนเริ่มตัด ควรทำให้น้องสบายตัวและคลายเครียดก่อน
  • ใช้บริการตัดขนแมวกับมืออาชีพอย่างโรงพยาบาลสัตว์หรือร้าน Pet Shop ที่มีประสบการณ์ตัดขนให้กับน้องแมวมาแล้ว เพราะผู้ให้บริการส่วนมากจะรู้ว่าต้องทำอย่างไรหากน้องแมวดิ้นหรือต่อต้าน รู้ว่าควรตัดขนในระดับไหน และมีเครื่องไม้เครื่องมือที่พร้อมสรรพ เกิดความระคายเคืองกับน้องแมวน้อยที่สุด

การตัดขนแมวให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้แมวมีอาการซึมเศร้า หากใครที่ยังไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง และกลัวว่าจะเกิดผลกระทบต่อสภาพจิตใจของน้อง ก็ควรเลือกใช้บริการกับร้านตัดขนหรือบริการตามโรงพยาบาลสัตว์ที่ไว้ใจได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและความสวยงาม

การตัดขนแมวเอง

  • เตรียมอุปกรณ์สำหรับกรูมมิ่ง
  • ถุงมือยางสำหรับป้องกันรอยขีดข่วน หรือรอยกัดจากน้องเหมียว
  • ผ้าขนหนูไว้เช็ดหน้าและลำตัว
  • ตาเลี่ยนขนาดเล็ก ควรมีเสียงเบา เพื่อไม่ให้น้องแมวตกใจ ที่ออกแบบมาสำหรับสัตว์ขนาดเล็ก สามารถซื้อได้ตามร้านขายสัตว์เลี้ยง
  • กรรไกรซอย ไว้สำหรับเก็บความเรียบร้อยในตอนสุดท้าย
  • หวีหรือแปรงขน หวีที่ใช้ควรเป็นหวีหน้า หรือหวีซี่ถี่ๆ

ขั้นตอนการตัดขนแมว

  1. คลายเครียดด้วยการนวด เกา ล่อด้วยขนม หรือสิ่งที่น่าสนใจเพื่อให้แมวอยู่นิ่งๆ และเบนความสนใจจากการตัดขนหรือโกนขนแมว
  2. ใครที่เลี้ยงแมวขนยาว อาจจะเริ่มที่หน้าก่อน ให้จับใบหูของน้องเหมียวเอาไว้ แล้วใช้นิ้วรองขนที่ยาวเกินออกมาเพื่อตัดออก โดยจะใช้ปัตตาเลี่ยนหรือกรรไกรซอยก็ได้
  3. ใครที่มีแมวขนยาวแล้วรุงรัง ถ้าใช้หวีจะทำให้น้องแมวรู้สึกเจ็บได้ การใช้ปัตตาเลี่ยนไถเปิดขนใต้ท้อง จะช่วยให้แปรงขนได้ง่ายกว่า
  4. ตัดขนแมวเอง ควรตัดในความยาวที่พอดี ไม่สั้นจนเกินไป สามารถอยู่ในระดับที่แก้ไขทรงได้ และต้องมีขนไว้ปกคลุมร่างกายด้วย
  5. ระหว่างที่ตัด น้องแมวอาจจะงอแง หรือไม่อยากตัดขนแล้ว ก็ปล่อยให้น้องพัก นอนเล่น หรือกินขนมให้น้องไม่เครียดก่อน แล้วค่อยพาน้องไปตัดขนต่อจนเสร็จ
  6. จากนั้น ให้ใช้แปรง ถ้าขนพันกันหนาเป็นกระจุกๆ แปรงขนอย่างระมัดระวัง ส่วนไหนที่เกินออกมาให้ใช้กรรไกรหรือปัตตาเลี่ยนเล็มๆ เก็บๆ ส่วนที่เกินออกมา
  7. จากนั้นจึงค่อยพาน้องแมวไปอาบน้ำล้างขนให้เรียบร้อย เป็นอันเสร็จ

ตัดขนแมว

ตัดขนแมวแค่ไหนดี

เวลาที่ไปร้านตัดขนแมว ช่างมักจะถามว่าจะตัดขนน้องแค่ไหนดี ตามประสบการณ์แล้ว อย่าบอกช่างตามรู้สึก เพราะคำว่ามากน้อยของแต่ละคนและแต่ละร้านไม่เท่ากัน บางร้านเอาออกไม่มากจะเหลือขนประมาณ 10-15 เซนติเมตร แต่บางร้านจะเหลือแค่ 2-5 เซนติเมตรไปเลยก็มี ดังนั้นจึงควรระบุให้แน่ชัด หรือไม่ควรจะนำรูปที่ต้องการให้ช่างดู โดยเฉพาะร้านที่เพิ่งเคยไปครั้งแรก

ที่จริงแล้วการตัดขนแมวให้เหลือความยาวเท่าไร จะขึ้นอยู่กับเจ้าของและความมั่นใจของน้องแมวเป็นหลัก หากไม่อยากจะให้น้องรู้สึกเสียเซลฟ์มาก ให้ตัดพอประมาณเล็มพอให้ขนรุงรังหลุดออกไป แล้วขยันมาถี่หน่อย แต่สำหรับกรณีที่อากาศร้อนมาก และแมวเป็นสายสตรองไม่ค่อยจะเสียเซลฟ์กับอะไรง่ายๆ ตัดสั้นไปเลยก็ดี

การเลือกร้านตัดขนแมว

การเลือกร้านตัดขนแมวถือเป็นศาสตร์และศิลป์อย่างหนึ่ง เพราะแต่หากว่าไปเจอร้านที่ไม่ดีก็อาจจะทำให้บรรดาทาสพ่อทาสแม่เครียดไปตามๆ กัน หลักในการเลือกร้านตัดขนแมวมีดังต่อไปนี้

  • เลือกร้านที่เชื่อถือได้ เช่น ร้านที่เป็นร้านที่เปิดมานาน ร้านที่เป็นคลินิกรักษาสัตว์ หรือร้านที่ได้รับการรีวิวที่ดี
  • เลือกร้านที่สะอาดและไม่แออัด เพราะคงไม่อยากให้น้องแมวติดเชื้อโรคหรือหมัดจากร้านตัดขนกลับมา
  • เลือกร้านที่เป็นมืออาชีพ มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย และมีประสบการณ์ในการอาบน้ำตัดขนแมว เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ไม่ถูกกับน้ำและเสียงดังๆ ของเครื่องเป่าขน รวมถึงปัตตาเลียน ช่างที่ไม่ชำนาญมากพออาจจะทำให้น้องแมวบาดเจ็บได้
  • เลือกร้านที่เป็นกระจก หรือสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้สามารถตรวจสอบการทำงานของช่างได้ว่าเป็นอย่างไร

ข้อดีของการตัดขนแมว

  • ลดการหอบเนื่องจากอากาศร้อน
  • ลดการสะสมความร้อนในร่างกาย
  • ลดการสะสมความชื้นที่ผิวหนังและขน
  • ลดการสะสมเห็บหมัด
  • ลดการหลุดร่วงของเส้นขน
  • ลดการเกิดขนพันกัน
  • ดูแลง่าย อาบน้ำแห้งไว ไม่เกิดกลิ่นอับ
  • ถ้าเป็นโรคผิวหนังโกนขนสั้นจะใส่ยาได้ง่าย ลดความอับชื้นสาเหตุของผื่นคันและโรคผิวหนัง

อาการแพ้ขนแมว

อาการทั่วไปของการแพ้แมว จะเกิดอาการบวมและอาการคันของเนื้อเยื่อรอบดวงตาและจมูก มักจะนำไปสู่การอักเสบของดวงตา ในบางรายอาจมีผื่นที่ใบหน้า คอ หรือ หน้าอกส่วนบน นอกจากนี้บางคนจะรู้สึกคันจมูก จามบ่อย น้ำมูกไหล ระคายคอหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ดังกล่าวจากแมว

สำหรับผู้ที่เป็นโรคหืด ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแมว เพราะมีโอกาสที่อาการจะรุนแรงขึ้น ในกรณีที่สารก่อภูมิแพ้ที่อยู่ในขนแมวหลุดเข้าไปในหลอดลม สารก่อภูมิแพ้จะไปกระตุ้นแอนติบอดี้บางชนิดบนผิวของเซลล์เม็ดเลือดขาวบางสายพันธ์ ทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก ไอ และหายใจเสียงดัง วี้ดๆ ซึ่งเป็นอาการกำเริบของโรคหืดเฉียบพลัน และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโรคหอบหืดเรื้อรังอีกด้วย  มีข้อมูลว่า 30% ของผู้ที่เป็นโรคหืด อาจจะมีอาการหนักขึ้นเมื่อสัมผัสกับแมว ดังนั้นควรรีบปรึกษาอายุรแพทย์โรคภูมิแพ้เพื่อทำการรักษาที่ถูกต้อง

การตรวจวินิจฉัยอาการแพ้ขนแมว

มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ การทดสอบทางเลือด และการทดสอบทางผิวหนังโดยวิธีการสะกิด (Skin prick test) ซึ่งวิธีหลังจะให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าวิธีแรก

ยาบางชนิดที่คนไข้รับประทานอาจรบกวนต่อการทดสอบผิวหนัง ดังนั้นควรปรึกษาอายุรแพทย์โรคภูมิแพ้ก่อนการทดสอบ

วิธีป้องกันอาการแพ้ขนแมว

การไม่เลี้ยงแมวเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันการแพ้ขน แต่ถ้าหากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็มีทางเลือกเพื่อลดอาการแพ้ ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการเลี้ยงแมวในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องนอน
  • ล้างมือทุกครั้งหลังจากสัมผัสแมว
  • ถ้าในบ้านทมีการปูพรม ควรนำพรมออก เพื่อลดการสะสมของสารก่อภูมิแพ้และขนแมว
  • ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในบ้าน โดยเฉพาะห้องนอน
  • หมั่นล้างทำความสะอาดไส้กรองแอร์ และเปลี่ยนเมื่อถึงกำหนด
  • ดูดฝุ่นภายในบริเวณบ้านอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง รวมถึงของเล่นและที่นอนของเจ้าเหมียว และควรใช้หน้ากากปิดจมูกขณะปัดฝุ่น และทำความสะอาดด้วย
  • เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนังไม่ควรทำจากผ้า เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาด
  • อาบน้ำให้แมวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และแปรงขนให้แมวทุกวัน เพื่อลดเศษขนและฝุ่นละอองที่สะสมไว้
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 150 นาที เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
  • สำหรับผู้ที่เป็นโรคหืด ให้ใช้ยาพ่นจมูกหรือยาพ่นทางคอ เพื่อช่วยป้องกันอาการกำเริบ แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการแพ้ให้เร็วที่สุด

ใครต้องระวังเป็นพิเศษ

ผู้ป่วยโรคหืด เป็นกลุ่มที่ต้องคอยระวังและหลีกเลี่ยงการสัมผัสแมว เนื่องจากการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้จากขนแมว อาจทำให้เกิดการกำเริบของโรคหืดเฉียบพลัน หรือเกิดเป็นโรคหืดเรื้อรังได้  แม้จะไม่ใช่ภาวะที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างรุนแรง แต่อาจจะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญ หรือส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง จึงควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ที่เป็นไปได้เมื่อเกิดความผิดปกติอย่างต่อเนื่อง


โดยสรุปแล้วการตัดขนแมวสามารถทำได้ แต่ถ้าไม่อยากให้น้องแมวเสียเซลฟ์มากจนเกินไปก็อย่าตัดจนสั้นกุด และเลือกช่างตัดขนที่ไว้ใจได้ เพื่อความปลอดภัยและขนอันสวยงามของน้องแมว และลดอาการแพ้ของเจ้าของด้วย

 

 

ติดตามอ่านเรื่องเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงได้ที่ richcitydesigns.com
สนับสนุนโดย  ufabet369